เพราะประเทศไทยได้เดินหน้าและใช้ประโยชน์จากเทคโน โลยีดิจิทัลได้อย่างเต็มที่ และคนไทยเริ่มคุ้นเคย คุ้นชินการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ณ ขณะนี้มีผู้ใช้งานมากกว่า 40 ล้านคน และเชื่อว่าในอนาคตจะมีจำนวน ผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นอีก นั่นเป็นเพราะแอป “เป๋าตัง” จะเป็น “ซุปเปอร์แอป” ที่รวมบริการต่างๆของภาครัฐ และเปิดให้บริการเชื่อมต่อระบบเพื่อเป็นอี-วอลเล็ต นำไปสู่การชำระค่าสินค้าและบริการต่างๆได้

กองสลากพลิกโฉม จำหน่าย “ลอตเตอรี่” ผ่านเป๋าตังค์

ดังนั้น การขายสลากกินแบ่ง ผ่านแอป “เป๋าตัง” จึงเป็นทางเลือกและทางออกสำหรับยุคดิจิทัล ไทยแลนด์ 4.0 พร้อมนำไปสู่การแก้ไขปัญหาหวยแพง ขายเกินราคาใบละ 80 บาท ที่ฝั่งรากแก้วหยั่งลึกมาอย่างยาวนานในสังคมไทย

แต่ถ้าจะให้ง่ายต่อการจดจำของประชาชน สำนักงานสลากฯ น่าจะเปลี่ยนชื่อ “สลาก 80 บาท” เป็นสลากโกล์ (Goal Lotto) คำว่า Goal คือเป้าหมายที่จะแก้ไขปัญหาหวยแพง และมาจาก Government Online Agency Lotto ด้วย และไม่มีใครรู้ว่าราคาสลากจะยังคงอยู่ที่ 80 บาทไปอีกกี่ปี

การขายสลากผ่านแอปเป๋าตังนั้น จะมี 2 รูปแบบ ได้แก่ โครงการสลาก 80 บาท หรือเรียกขานในกลุ่มผู้ค้าสลาก “หวยจุด” เพราะเป็นร้านค้าประจำที่ห้ามเคลื่อนย้าย และมีระบบตรวจสอบการขายสลากอย่างชัดเจน ติดตามการขายได้ตลอดเวลา และผู้ซื้อจะได้สลากตัวจริงเก็บไว้ด้วยตัวเอง

โดยผู้ค้าขายที่เข้าร่วมโครงการนี้ จะได้รับโควตาสลาก 25 เล่ม หรือ 2,500 ฉบับ และต้องมีแอป “ถุงเงิน” เพื่อรับเงิน ขณะที่ผู้ซื้อสลากจะต้องมี แอป “เป๋าตัง” สำหรับจ่ายค่าสลาก

ปัจจุบันมีร้านค้าสลาก 80 บาท ประมาณ 77 จุด อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล โดยในงวดวันที่ 2 พ.ค.65 นี้ จะมี จุดจำหน่ายเพิ่มเป็น 228 จุด ซึ่งสำนักงานสลากฯมีเป้าหมายที่จะขยายให้ครบทุกอำเภอ อำเภอละ 1-2 จุด หรือราว 1,000 แห่งกระจายทั่วประเทศ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการคัดเลือกผู้ค้าเข้าร่วมโครงการ โดยคัดเลือกจากผู้ค้ารายเดิมที่ได้โควตาสลาก 5 เล่ม ซึ่งเมื่อเข้าร่วมโครงการนี้แล้วจะได้สลากเพิ่มเป็น 25 เล่ม เพื่อตอบแทนความดี ที่ไม่ขายสลากเกินราคา 80 บาท

ส่วนรูปแบบที่ 2 คือ แพลตฟอร์มออนไลน์สลากกินแบ่งรัฐบาล จะเป็นแพลตฟอร์มที่รับฝากขายโควตาสลากของผู้ได้รับ สิทธิโควตา 5 เล่ม ลักษณะเดียวกับแพลตฟอร์มขายสลากออนไลน์เอกชน เช่น มังกรฟ้า, กองสลากพลัส หรือเสือแดง เป็นต้น

เบื้องต้นจะนำสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ถูกตัดสิทธิยึดโควตาคืนจากผู้ที่นำสลากไปขายผ่านมังกรฟ้า และกองสลากพลัส จำนวนสลาก 6.74 ล้านฉบับ นำมาขึ้นแพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งสำนักงานสลากฯจะนำโควตาดังกล่าวไปคัดเลือกผู้ที่ลงทะเบียนสมัครเป็นผู้ขายสลากกินแบ่งรัฐบาลตัวจริง แล้วกำหนดเงื่อนไขว่าสลากจำนวนนี้ต้องฝากขายแพลตฟอร์มออนไลน์สลากกินแบ่งรัฐบาลนี้เท่านั้น เพื่อนำร่องในการขายผ่านออนไลน์ครั้งแรกของสำนักงานสลากฯ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มจำหน่ายงวดที่ 16 มิ.ย.65 นี้

โดยแพลตฟอร์มออนไลน์นี้ ผู้ซื้อสลากจะไม่ได้รับสลากฉบับจริง แต่จะได้หลักฐานการซื้อสลาก ทั้งใบเสร็จ และภาพสแกนสลากตัวเลขที่ลูกค้าซื้อ บันทึกไว้ในแอปเป๋าตัง ซึ่งสลากใบนี้จะไม่สามารถโอน หรือนำไปขายต่อได้อีก

สำหรับขั้นตอนการซื้อสลากผ่านแอปเป๋าตังนั้น มี 7 ขั้นตอน 1.เปิดใช้แอปเป๋าตัง เพื่อเข้าสู่ระบบ 2.เลือกเมนู “บริการ” แล้ว กดไปที่ “สลากกินแบ่งรัฐบาล” 3.เลือกปุ่ม “ซื้อสลาก 80” 4.ทำการสแกนคิวอาร์โค้ด (QR Code) จากร้านค้าที่ลงทะเบียนขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อชำระเงิน 5.ยืนยันการชำระเงิน ด้วย PIN ทั้ง 6 หลัก 6.สลากฉบับที่จะซื้อที่ร้านค้าสแกนไว้จะ ขึ้นในระบบ และ 7.เมื่อชำระเรียบร้อยแล้วให้ทำการบันทึก Slip ไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ในเมนูประวัติซื้อสลาก

นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต ในฐานะ ประธานคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า ในช่วงหยุดสงกรานต์ สำนักงานสลากฯ ได้ทดสอบระบบการขายสลากผ่านแพลต ฟอร์มออนไลน์ และผ่านแอปเป๋าตัง หากระบบไม่มีปัญหา สำนักงานสลากฯจะนำเสนอบอร์ดสลากพิจารณาอนุมัติ เพื่อจำหน่ายสลากกิน แบ่งรัฐบาล ผ่านแพลต ฟอร์มออนไลน์ ในห้วงปลายเดือน เม.ย.นี้

“เชื่อว่าการขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์นี้ จะเป็นกลไกทำให้ราคาสลากกินแบ่งรัฐบาลกลับมาขายไม่เกินราคาใบละ 80 บาทอย่างแน่นอน เพราะจะมีช่องทางซื้อสลากในราคา 80 บาท ได้จากทั้ง 2 รูปแบบ”.